Category Archives: ข่าววันนี้

พ่อย้ำจนปัญญา ไม่มีจ่าย15ล้าน เด็ก16ซิ่งบีเอ็มฝ่าไฟแดงชนคนตาย

รายการ โหนกระแส ตามคดี เด็ก16ซิ่งรถบีเอ็มฝ่าไฟแดงชนคนตาย หลังเหตุการณ์ผ่านมาเกือบจะเดือน พ่อเด็กบอกไม่มีปัญญาจ่ายเงินเยียวยาให้ 15 ล้าน พร้อมให้ฟ้อง ลูกบวชอุทิศให้ 5 วัน

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เทรนด์ได้รับความนิยมทวิตเตอร์ กลับมาเป็นแฮชแท็ก #เด็ก16ฝ่าไฟแดงชนคนตาย พร้อมแฮชแท็ก #โหนกระแส อีกที หลังจากรายการโหนกระแส บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด เชิญครอบครัวของ “น้องเต้” หนุ่มวัย 24 ปีที่ถูกรถบีเอ็มดับเบิลยู ขับโดยวัยรุ่นอายุ 16 ปีพุ่งชนเสียชีวิต มาออกรายการ

เด็ก16

สมาชิกในครอบครัวกล่าวว่า ถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาอะไรก็แล้วแต่นับจากเกิดเหตุวันที่ 30 เดือนกันยายน 2565

โดยพ่อน้องเต้มีอาชีพทำนา ส่งเสียลูกเรียนหนังสือจนถึงจบ วิชาวิศวกรรมศาสตร์ โทรคมนาคม เมื่อปี 2563 เมื่อน้องเต้ทำงานแล้ว ส่งเงินให้พ่อแม่เดือนละ 15,000 บาท

“หมอก” พี่ที่ทำงานกับน้องเต้ เล่าถึงวันเกิดเหตุ ว่า ทราบข่าวตอนเที่ยงคืน แต่ยังเช็กรายละเอียดไม่ได้มาก รู้ว่าเหตุเกิดตอนเกือบจะสี่ทุ่ม มีวัยรุ่นขี่รถบีเอ็มฝ่าไฟแดงแล้วชนน้อง ตรงแยกไฟแดง

“สิ่งที่น่าตกใจ หลังมีการชนไปแล้ว เห็นจากข่าวแล้วก็ภาพที่มีการแชร์ในทวิตเตอร์ คือฝั่งผู้ชนลงจากรถมา ไม่ได้ให้การช่วยเหลือ แต่ใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพรถตัวเอง แล้วก็เอาไปลงสตอรี่ตัวเอง บอกว่าเขาแล้วก็เพื่อนที่นั่งมาด้วยปลอดภัย รถชนบางส่วน สี่ทุ่ม 3 นาที เขาโพสต์หลังเกิดเหตุได้ไม่นาน

น่าตกใจว่าน้องเต้คือบุคคลที่ถูกชน กระเด็นไปไกลกว่านี้ เขาไม่ได้เข้าไปดูแลหรือคิดที่จะช่วย แต่กลับมีอารมณ์ถ่ายภาพแล้วบอกคนอื่นว่ากูโดนแบบนี้ นี่คือสิ่งที่สังคมพยายามทวงถามความยุติธรรมให้ครอบครัวน้องเต้

เมื่อพิธีกร “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ถามคำถามว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุได้มีโอกาสพูดคุยกับฝั่งคนขับรถชนหรือไม่ พ่อของน้องเต้ กล่าวว่า คุยวันที่ 17 เดือนตุลาคม มีการสนทนาเขาบอกจะรับผิดชอบหมดทุกอย่าง เขายอมรับผิด

“แต่ทีนี้เรื่องไม่จบ เพราะว่าผัดไปวันที่ 21 มาสนทนาอีกที จากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาพูดไม่รับผิดชอบสักอย่างแล้วก็ให้เงินผมจะจ่ายเป็นรายปี ผ่อนจ่ายครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่าจะผ่อนจ่ายยังไง

มีอยู่ข้อนึงเขาบอกว่าจะกู้สหกรณ์ได้ประมาณ 7 แสน จะหาเงินมาชดเชยที่ลูกผมสูญเสียไป บวกเงินที่จะมาทำศพ จะเอาเงินมาให้ 2.5 แสน แต่จริงๆเงินทำศพลูกผม หมดไป 3 แสนต้นๆครับ”

อย่างไรก็ตาม พ่อของน้องเต้กล่าวว่า ถึงวันนี้เงิน 2.5 แสนที่อีกฝ่ายบอกจะช่วย ก็ยังไม่ได้นำมาให้ ที่ฝ่าวางใส่พานใต้พวงหรีด อันที่จริงแล้วก็ไม่มี ส่วนที่ได้มาคือประกันพ.ร.บ. ของคู่กรณี 5 แสนบาท
ต่อมา นายเทอดพงษ์ กมลปัญญากร พ่อของวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ โทร.เข้ามาให้รายละเอียดว่า ที่ผ่านมาพาลูกชายไปกราบขอขมาพ่อที่สภ.โพกลาง แล้วก็ระหว่างพาพ่อผู้เสียหายขึ้นรถไปรพ.มหาราช ก็คุยกันปกติ ขออภัย ขอขมากันบนรถ ไปรอที่รพ.

ส่วนเรื่องเงินเยียวยา นายเทอดพงษ์กล่าวว่า คุยกันตั้งแต่วันที่ 1 แล้ว แล้วก็ถือเงินไป 2.5 แสนไปวันเผา ตามที่เป็นข่าว แต่ไม่ได้เข้าร่วมงาน แล้วก็ไม่ได้วางไว้ เพราะว่าผู้ใหญ่บ้านไปถามเขาแล้ว ไม่มีใครตอบรับให้ร่วมงาน

หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย

ปัจจุบันวันที่ 17 ที่ไปไกล่เกลี่ยกัน ก็ถือเงินก้อนนั้นไป

แล้วมีผู้ประสานงาน คือนายวีระศักดิ์ บุญเพลิง ดูแลผู้เสียหาย ซึ่งบอกว่าพ่อแม่ผู้เสียหายไม่ได้ยินดียอมรับเงินก้อนนั้นไป

“ผมก็แจ้งพ่อกับแม่ว่าจะเรียกร้องเงินเยียวยาเรื่องนี้เท่าไหร่อะไรยังไง ท่านก็บอกว่ายังไม่ตอบเรื่องนี้ นี่วันที่ 17 นะครับ แล้วปัจจุบัน 21 ก็มาไกล่เกลี่ยรอบ 2 ก็เป็นชุดเดิม พ่อกับแม่มารับเช็คในส่วนพ.ร.บ.รถยนต์ 5 แสนบาท วันที่ 21 พ่อกับแม่ก็แจ้งยอดค่าเสียหาย” นายเทอดพงษ์กล่าว

เมื่อถามหายอดเงินที่เรียกค่าชดเชย สองฝ่ายทราบตรงกันว่าอยู่ที่ 15 ล้านบาท แต่นายเทอดพงษ์กล่าวว่า ไม่มีหนทางจะหามาให้ได้เป็นก้อน

“ผมก็ชี้แจงว่าเงินมากมายขนาดนั้น ฐานะทางการเงินผม ก็คงไม่มีเป็นก้อนให้ได้ขนาดนั้น ผมก็ชี้แจงว่าเงินที่ให้ส่วนแรก ผมคงหาได้สัก 6-7 แสนให้ไปก่อน ท่านวีระศักดิ์ ก็บอกว่าถามพ่อกับแม่ผู้เสียหาย เขาก็บอกว่าถ้าเกิดไม่มีให้คงต้องฟ้องทางแพ่งกัน ผมก็น้อมรับยอดนั้น แล้วก็คงตามความประสงค์พ่อกับแม่”

พ่อวัยรุ่นขับบีเอ็มกล่าวย้ำว่า “15 ล้าน ณ ปัจจุบัน ก็ต้องบอกว่าจนปัญญาจะให้ เพราะว่ายอดไม่ได้น้อยๆ” แล้วก็ยืนยันว่า ไม่ว่าจะอย่างไรต้องปรึกษาครอบครัวก่อน

นายเทอดพงษ์กล่าวเหตุว่า ลูกชายเพิ่งจะไปบวชได้ 5 วันแล้วก็เพิ่งจะสึกออกมา

หนุ่ม กรรชัย

ด้านนายวีระศักดิ์ โชติวานิช กรรมการประชาสัมพันธ์ สภาทนายความฯ กล่าวว่า

เรื่องนี้ปัญหาเกิดจากคู่กรณีเป็นเยาวชน อยู่ในอำนาจศาลเยาวชนแล้วก็ครอบครัว ไม่ใช่ศาลผู้ใหญ่ธรรมดา ผมคิดว่าส่วนนี้เขาเองก็คงมีผู้รู้กฎหมาย หรือที่หารือให้ความเห็นเขา ว่าเรื่องนี้พอถึงศาล กรณีโทษที่ลงโทษไม่หนักเหมือนศาลใหญ่

“เหมือนกรณีอาจารย์นักศึกษาม.ธรรมศาสตร์ แพรวา สุดท้ายเป็นกระบวนการศาลเยาวชน ผมคิดว่าครอบครัวฝ่ายน้อง 16 ปีก็พอจะรู้ ฉะนั้นวิธีการเจรจาถึงออกมาอย่างนี้”

“เหตุการณ์ครั้งนี้เหมือนย้อนกลับมาอีกแล้ว จริงๆ กรณีแม่แพรวาเขายังกระทำได้เลยนะ แต่ครั้งนี้ผมว่าเป็นเหตุที่คุณไม่ต้องรออีกหลายปีแล้วมาทำเลย มันสามารถทำได้เลย แล้วคุณรับราชการ เป็นเจ้าหน้าที่ในอบต. ทำงานรับใช้ประชาชน เรื่องแบบนี้อยากให้เห็นใจเขาด้วย อยู่ในสายกับคุณเทอดพงษ์อีกครั้ง อยากให้เห็นใจฝั่งนี้ เป็นไปได้มั้ย ปรึกษากันเลยได้มั้ย?” นายวีระศักดิ์กล่าว

ขณะที่นายเทอดพงษ์ยืนยันว่า “คงไม่ได้ครับ ดูยอดเงินมันขนาดนี้ ผมจะไปหาไหนให้ได้ มันเยอะนะครับ ผมน้อมรับข้อเสนอคุณพ่อคุณแม่เขา แต่ถ้าเงินก้อนขนาดนี้ ก็บอกตรงๆ มันคงยากมาก ถ้าคุณพ่อคุณแม่เขายังยึดตามยอดนี้ ผมก็น้อมรับนะครับ คงอาศัยกระบวนการทางศาลว่ากันดูว่าจะยังไง ตัวเลขผมก็น้อมรับ”

‘โตโน่’ ไม่สนดราม่าขอทำเพื่อ ‘หมอ-พยาบาล’ วอนอย่าแบ่งสีให้สามัคคีกัน

“โตโน่” เมินกระแสดราม่า ประกาศขอทำเพื่อ “หมอ-พยาบาล” วอนอย่าแบ่งพรรคแบ่งสีขอให้สามัคคีกัน ถามไม่ดีหรืออย่างไรถ้าคนหันมาช่วยเหลือสังคม ยันไม่เคยคิดใช้ของฟรีปมอุโมงค์น้ำ แต่มหาวิทยาลัยใจดีช่วยสนับสนุนไม่คิดค่าใช้จ่าย

โตโน่ นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์

เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักแสดงชื่อดัง

เปิดเปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดกิจกรรม ว่ายข้ามโขงเพื่อการกุศลส่งเสริมช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน มี โรงพยาบาลนครพนม แล้วก็ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อ OneMan And The River ระบุระยะทางว่ายไปกลับประมาณ 15 กิโล ระหว่างตัวเมืองจังหวัดนครพนม กับแขวง คำม่วน สปป.ลาว ในวันที่ 22 ต.ค.ว่า ล่าสุดวันนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพน้ำนับว่าไม่มีความกังวล แต่ไม่มีแผนในการฝึกซ้อมว่ายสนามจริง ด้วยเหตุว่ามั่นใจในสภาพร่างกาย พร้อมมาก ทั้งความฟิต แล้วก็สภาพจิตใจ

ส่วนปัญหากรณีดราม่า หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นหลากหลายมุมมอง ตนขอน้อมรับทุกความคิดเห็น รวมถึงความเห็นต่าง หากตนถูกดราม่า แล้วเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ให้กับหมอ พยาบาล ของโรงพยาบาลต่างๆได้ ตนยินดี ด้วยเหตุว่าหมอ พยาบาล ต้องทำงานทุกวันในการดูแลรักษาคนไข้ ตนเหนื่อยวันเดียว แต่ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคม อยากให้ทุกคนรักกัน สามัคคีกัน หันมาช่วยเหลือสังคม ทำความดีเพื่อสังคม อยากถามว่า ไม่ดีหรืออย่างไรที่คนเรามาร่วมทำความดี มารักสามัคคีกัน ทำเพื่อประโยชน์

นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์

โตโน่ กล่าวว่า ต้องขอกราบขอบพระคุณมีหลายหน่วยงานให้การสนับสนุน

รวม ถึงกรณีที่มีการทอดสอบร่างกายในอุโมงค์น้ำของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จนกลายเป็นกระแสดราม่า ว่าใช้ฟรี ทั้งที่ตนแล้วก็ทีมงานไม่เคยคิดจะใช้ของใครฟรี แล้วก็ไม่ใช้งบประมาณรัฐในการจัดกิจกรรม แต่ในเมื่อมีหน่วยงานต้องการสนับสนุนอนุเคราะห์ให้ใช้ทดสอบร่างกาย เพื่อความพร้อมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมไม่ใช่เรื่องแปลก ทั้งนี้ตนไม่นำมาเป็นอุปสรรคปัญหา ด้วยเหตุว่าถามคืนว่าหากกลัวดราม่า อาจจะไม่ต้องทำอะไร การทำความดีไม่ต้องกลัวดราม่า ด้วยเหตุว่าอาจจะมีทุกวันอยู่แล้ว สำคัญที่สุดต้องทำให้ถึงเป้าหมาย ต้องช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนม รวมถึง โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนขอแค่ได้ทำเพื่อประโยชน์แก่สังคม

“ฝากทำความเข้าใจว่ากิจกรรมที่ผมจัดขึ้น ต้องการทำเพื่อแพทย์ พยาบาล ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย อย่าเอาการเมือง หรือแบ่งพรรคแบ่งสีมาเกี่ยวข้อง ใครจะเชียร์ใครผมไม่สนใจ เพราะโรงพยาบาล ไม่เคยเลือกว่าจะต้องรักษาใคร มีหน้าที่รักษาทุกคน ทุกพรรค ทุกฝ่ายทุกสี อยากให้เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ มากกว่าการเอาสีเอาฝ่ายมาเป็นปัญหา อยากให้รักสามัคคีกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือดีกว่า ไม่ว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ขอเพียงผมได้ทำ นั่นคือความตั้งใจของผม ขอทำให้ดีที่สุด”โตโน่ กล่าว

ทักษิณ โผล่ช่องยูทูบดัง ‘ไกลบ้าน’ พาทัวร์บ้านที่ดูไบ เล่าเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง ‘ป้อม ป๊อก ตู่’

ทักษิณ เซอร์ไพรส์โผล่ช่องยูทูบดัง ‘ไกลบ้าน’ พาฟาโรสทัวร์บ้านที่ดูไบ

เล่าเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง ‘ร.ร.นายร้อย’ และ 3 พี่น้อง โอ๊ค เอม อิ๊ง
โผล่เซอร์ไพรส์ในรายการ ไกลบ้าน ของยูทูบเบอร์ช่องดังอย่าง FAROSE ที่มักเดินทางไปท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆอย่างอุดมไปด้วยความรู้ ซึ่งปัจจุบัน ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้เปิดบ้านที่ดูไบให้ฟาโรส ไปพาทัวร์

ซึ่งฟาโรสได้ชักชวนเข้าคอนเซ็ปต์รายการ ถามทักษิณถึงภาษาว่าอยู่มานาน สามารถใช้ภาษาที่ดูไบได้หรือไม่ ซึ่งทักษิณกล่าวว่า คนที่นี่ โดยมากกล่าวภาษาอังกฤษ เว้นแต่คนอาหรับเจอกัน ปกติคนจะพูดภาษาอังกฤษ เขาพูดอังกฤษเก่งทุกคน ก็เลยรู้น้อยหน่อย ไม่กี่คำ ดังเช่น สวัสดี ขอบคุณ หรืออินชาอัลลอฮ์ ที่ไว้อวยพร ขอให้เป็นแบบนั้น

ทักษิณ

ก่อนจะพาไปทัวร์ Mall of Emirates มอลล์ใหญ่ อยู่ใกล้บ้าน แวะร้าน Laduree เป็นร้านประจำไว้รับแขก ที่ว่า “เจอกันที่นี่ หาได้ง่าย”

รวมถึงสอบถามเรื่องมีมต่างๆของวัยรุ่น ที่ทักษิณว่าเก็ตมากมาย สำหรับภาษากะเทยนั้นก็เข้าใจเพียงแค่บางคำ ดังเช่น ปังมาก และ เท

เกี่ยวกับเรื่องกลับบ้าน ทักษิณว่า หลานๆโตขึ้น อยู่กับเขาก็มีความสุข พ่อแม่เขาต้องทำงาน พวกเราก็จะได้สอนเขาบ้าง อยากอยู่กับหลาน ถ้าเกิดกลับไปก็ไปเป็นที่ปรึกษาให้ลูกบ้าง สงสารคุณหญิง พวกเราเคยได้อยู่ด้วยกันมา อยู่ทางนี้นานๆก็เหงา อยากไปเลี้ยงหลาน แบ่งเบาภาระคุณหญิง ถึงต้องฟิตร่างกาย ให้ต่ออายุได้อีก 10 ปี ให้ถึง 16 ปีที่หายไป

ทักษิณ ชินวัตร

หลังพาเที่ยวห้างแล้ว ยังได้พากลับมาเปิดบ้านที่ทักษิณพาไปชมห้องที่จัดคลับเฮาส์

ก่อนที่จะวกถามเรื่องสมัยเรียนนายร้อย ที่ทักษิณว่า นักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับผม มีป๊อก อนุพงษ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรุ่นน้อง 2 ปี ส่วนประวิตร รุ่นพี่ 4 ปี ความจริงโรงเรียนก็สอนให้รักกัน เคารพกัน รุ่นพี่รุ่นน้อง พอมีเรื่องการเมืองเข้ามาก็คนละหมัด แทงกันฉุบฉับ มันไม่ค่อยสร้างสรรค์กัน มันควรจะสร้างสรรค์มากกว่านี้ มันควรจะมีความเป็นสุภาพบุรุษ โรงเรียนสอน สุภาพบุรุษ อ่อนนอก แข็งใน แต่ท่านประยุทธ์เป็นคนแข็งนอก อ่อนใน ไม่ค่อยฟังคำสั่งสอนเท่าไหร่

ส่วนเรื่องลูกๆนั้น ทักษิณว่า แม่เขาเลี้ยงลูกดี แม่เป็นคนดูแลลูก รักกัน 3 คน รักกันมาก ไม่เคยอิจฉาเลย วันหนึ่งซื้อเพชรมา 2 เม็ด อิ๊งมาหาผมบ่อย ก็ถามเขาเรื่องเพชร เขาตอบว่า เม็ดใหญ่ต้องให้พี่เอม เขารักกัน เสียสละให้กันและกัน

โอ๊ค

“โอ๊คตอนเด็กๆ ชอบเลี้ยงสัตว์ เวลาให้ไปเรียนหนังสือเหมือนไล่ไปตายเลย ไม่ชอบเลย พอเลี้ยงสัตว์ อ่านหนังสือแต่ละเรื่องจริงจังมาก เอม สไตล์พ่อ ชอบซื้อเครื่องเขียน ตำรา ชอบวิชาการ ส่วนอิ๊ง หน้าพ่อจริงแต่นิสัยแม่ เป็นคนที่นิ่ง เด็ดขาด ดุเหมือนแม่ แรงมาก็แรงไป”

ซึ่งหลังจากได้เผยแพร่คลิปแล้ว #ไกลบ้าน ก็พุ่งขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย โดยทักษิณ ยังได้ทวิตว่า ฝากขอบคุณน้อง FAROSE ที่เดินทางมาถ่ายทำถึงดูไบและขอชื่นชมทีมงานที่เดินเรื่องได้กระชับมากครับ

“แอ๊ด คาราบาว” ซัดผู้ว่าฯ สุพรรณฯ อย่างเดือด ไม่ให้เล่นคอนเสิร์ต จวกรู้ไหมกูเป็นใคร ไม่ใช่ข้าราชการเลียกะ…รักษาตำแหน่ง!

กำลังเป็นหัวข้อในติ๊กต๊อกเลยทีเดียว

สำหรับกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต๊อกนำคลิป “แอ๊ด คาราบาว” หรือ ยืนยง โอภากุล นักร้องเพื่อชีวิต ที่ซัดเดือดผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ระบุว่าโดนสั่งไม่ให้คาราบาวเล่นการแสดงดนตรีที่เมืองสุพรรณฯ ลั่นมึงรู้ไหมกูเป็นใคร เรียกขึ้นมาเคลียร์กลางคอนเสิร์ต

“แอ๊ด คาราบาว” ซัดผู้ว่าฯ สุพรรณฯ อย่างเดือด

“มึงเป็นผู้ว่าฯ มึงคิดว่ามีอำนาจเหรอ ขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยดิ อยู่เปล่า ไม่ต้องเล่น (ให้วงหยุดเล่น) ขึ้นมาเคลียร์กันหน่อยดิ มึงรู้ไหมกูเป็นใคร กูเกิดที่นี่ กูตายที่นี่ แล้วมึงเป็นใคร ไม่ให้กูเล่นที่สุพรรณฯ คนกาญจน์ฯ ยังให้กูไปเล่นเลย ไอ้สัxว์ ส้นตีx คิดเหรอ มึงแค่เอาตัวรอด แล้วไม่คิดเหรอคนสุพรรณฯ จะเป็นยังไง เขาไม่ได้ดูคาราบาว (คนปรบมือ) มึงคิดว่ามึงเป็นผู้ว่าฯ มึงมีอำนาจเหรอ กูไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ แต่กูคือแอ๊ด คาราบาว กูไม่มีอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น แต่กูพูดความจริง นำเสนอความจริง กูทำเพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ ไม่ได้เป็นข้าราชการแบบพวกมึง ที่เลียกะโปxให้ได้ตำแหน่งและรักษาตำแหน่ง เลียกะโปxไปเรื่อยรักษาตำแหน่ง ไอ้สัxว์ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน กูเล่นไม่ได้แล้วเว้ย โมโห”

ไม่ให้เล่นคอนเสิร์ต

ต่อมา ก็มีอีกรายโพสต์คลิปที่เจ้าตัวใจเย็นลงแล้ว พร้อมเผยว่า ไม่ได้โกรธเกลียดผู้ว่าฯ สุพรรณฯ เพียงแค่สอน อย่าลุแก่อำนาจ

“ไม่ได้โกรธเกลียดผู้ว่าฯ โกรธเกลียดใคร แค่สอนให้น้องๆ ว่าสิ่งอะไรทำผิดพลาดไปแล้วก็แก้ไขซะ บ้านเมืองมีขื่อมีแป เข้ามาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อย่าใช้แต่อำนาจ อย่าลุแต่อำนาจ เกรงใจชาวบ้านบ้างที่เกิดเป็นประชาชน คนจังหวัดสุพรรณฯ มาก่อนมึง ไม่ใช่มึงเป็นผู้ว่าแล้วใหญ่ คxย กูเกิดมาก่อนมึง อาบน้ำร้อนเมืองสุพรรณฯ มาก่อน กูส่งปิ่นโตให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยก่อน จนพี่ชายกูเป็นผู้ว่าฯ จนน้องชายกูเป็นผู้ว่าฯ แล้วมึงไอ้เด็กเมื่อวานซืนมาเป็นผู้ว่าฯ แต่ไม่ให้กูเข้าเมืองสุพรรณฯ มึงคิดยังไงวะเนี่ย แต่หลังจากนี้ไป จะอำนวยอวยพรให้มันจงเจริญต่อไป จะไม่ยึดติดกับมึงอีกต่อไปแล้ว จะสละให้มัน ปล่อยมันไปเถอะ ผมปล่อยมันไปแล้วนะครับ ผมปลดปล่อยแล้ว มีความสุขแล้ว นิพพานแล้ว”.

งานนี้ยังไม่ทราบต้นสายปลายเหตุที่แน่ชัดว่าศึกวิวาทะเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ แต่ก่อนหน้าที่จะมีหัวข้อดังกล่าว ได้มีติ๊กต๊อกรายหนึ่งโพสต์คลิปที่แอ๊ด คาราบาวร้องเพลง “หลวงพ่อคูณ” แต่แปลงเพลงตัวเองท่อนนึงว่า “ชั่วดีอยู่ในกะโหลก มาเขกโป๊กๆ จำไว้ให้ดี เข้ามาพวกรัฐมนตรี นายกฯ ตู่ตัวดี กูจะให้พร ไปนั่งอยู่ในสภา ไปให้เขาด่าจงพึงสังวร แขวนพระเป็นอุทาหรณ์ ประชาชนเดือดร้อน เขาจึงเดินขบวน”

#หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ จับตา กสทช.ถกควบรวม “ทรู-ดีแทค”

#หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย

หลังมีรายงานว่า วันนี้ (12 เดือนตุลาคม65) หลักสำคัญการควบรวมธุรกิจทรูแล้วก็ดีแทคจะถูกบรรจุในวาระประชุมของคณะกรรมการ กสทช.แล้ว แต่อาจยังลงมติไม่ได้ เนื่องจากว่าต้องศึกษาตัวอย่างจากต่างประเทศเพิ่มเติม
วันนี้ (12 เดือนตุลาคม2565) แฮชแท็ก #หยุดผูกขาดมือถือ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย หลังมีรายงานว่า หลักสำคัญการควบรวมธุรกิจทรูแล้วก็ดีแทคจะถูกบรรจุในวาระประชุมของคณะกรรมการ กสทช.ในวันนี้ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กว่า 80,000 ทวีต โดยมีความกังวลเกี่ยวกับการควบรวมของทรูแล้วก็ดีแทคที่อาจนำไปสู่การผูกขาดทางการตลาด เหตุเพราะผู้ให้บริการที่เหลือแค่ 2 เจ้าใหญ่ อาจดีลขึ้นราคาค่าบริการ จากที่ผ่านมามีผู้ให้บริการ 3 เจ้าทำให้มีการแข่งขันกันอีกทั้งเชิงประสิทธิภาพแล้วก็ราคา

หยุดผูกขาดมือถือ ทรู-ดีแทค

สอดคล้องกับนายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)

ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Somkiet Tangkitvanich ระบุว่า ประชาชนควรจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะจากการวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ชี้ชัดว่าการควบรวมก่อให้เกิดผลเสีย ราคาค่าบริการหลังควบรวมอาจสูงขึ้น ร้อยละ 2-23 ในกรณีที่ไม่มีการสมคบราคา หรือ ฮั้วกัน ระหว่างผู้ประกอบการ 2 รายที่เหลืออยู่ แต่หากมีการฮั้วราคา อัตราค่าบริการอาจสูงขึ้นถึง 1.2 เท่า – 2.4 เท่า และ GDP ของประเทศจะหดตัวลง ร้อยละ 0.5-0.6

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตัวแทนบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น แล้วก็ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ได้ด้วยกันยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ กสทช. โดย พล.อ.กิตติ เกตุศรี ผู้ปฏิบัติงานประจำประธาน กสทช.เป็นผู้มารับหนังสือ

หยุดผูกขาดมือถือ

ตัวแทนของบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ต้องการให้ กสทช.พิจารณาการควบรวมโดยเร็ว เนื่องจากว่าผ่านมา 9 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีบทสรุปอย่างเป็นทางการ ซึ่งตามปกติต้องพิจารณาภายใน 90 วัน แล้วก็ความล่าช้ามีผลกระทบต่อผู้บริโภคของทรูแล้วก็ดีแทค เนื่องจากว่าใช้บริการแล้วก็โครงข่ายด้วยกันไม่ได้

ดังนี้ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. ประเมินว่า อาจเป็นการอนุญาตโดยมีเงื่อนไข ส่วนเข้มข้นหรือไม่จะต้องติดตามกันอีกครั้ง พร้อมยกตัวอย่าง กรณีเงื่อนไขเข้มข้น จะให้ธุรกิจขายบางกิจการออกไป ถ้าเกิดไม่เข้มข้น ก็ยังให้ธุรกิจถือทรัพย์สินทุกอย่างดังเดิม แต่จะกำกับพฤติกรรม

ILLSLICK เดือดท้า ร็อกสตาร์นักวิ่ง กลางเวที เหตุถูกเปรียบเทียบ

ILLSLICK เดือดท้า ร็อกสตาร์นักวิ่ง กลางเวที เหตุถูกเปรียบเทียบ ด้านแฟนคลับ ตูน บอดีแสลม ไม่พอใจ อ้างถูกพาดพิง

จากกรณี ดราม่า ก่อนหน้านี้ที่ แร็ปเปอร์ หนุ่มมีชื่อเสียง ILLSLICK ( อิลสลิก ) หรือ ทิฆัมพร เวชไทยสงค์ ได้มีการยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตที่ร้านดังย่านนนทบุรี แบบกระทันหัน โดยเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างถึงว่า ทางร้านไม่มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่บางคนยังไม่ให้เกียรติตน และก็ทีมงาน รวมถึงเรื่องเครื่องเสียง และก็อุปกรณ์ต่างๆในการแสดงที่ไม่ได้มาตรฐานตามที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุดังกล่าวตนก็เลยตัดสินใจยกเลิกการแสดง เนื่องจากอยากที่จะให้แฟนๆได้ดูการแสดงที่ดีที่สุด ไม่ใช่การแสดงที่ไม่มีคุณภาพ พร้อมขอโทษแฟนๆที่ตั้งใจมาดูการแสดงของตนด้วย

เดือดท้า ร็อกสตาร์นักวิ่งILLSLICK เดือดท้า ร็อกสตาร์นักวิ่ง

ล่าสุด ดราม่า เก่าพึ่งจบไป ดราม่า ใหม่ก็ตามมาติดๆเมื่ออยู่ๆหนุ่ม ILLSLICK ( อิลสลิก )

ก็ได้พูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว กลางเวที ในขณะที่กำลังทำการแสดงอยู่ โดยมีการกล่าวกล่าวถึง ศิลปินร็อกสตาร์ ที่ออกมาวิ่งเพื่อการกุศลท่านหนึ่ง งานนี้หลายคนคาดว่าคนที่หนุ่ม ILLSLICK ( อิลสลิก ) กล่าวถึงน่าจะเป็นหนุ่ม ตูน บอดี้แสลม ทำให้แฟนๆของหนุ่ม ตูน ต่างก็ไม่พอใจกันยกใหญ่

 

โดย ILLSLICK ( อิลสลิก ) กล่าวว่าเมื่อวันก่อนมีร้านแห่งหนึ่งให้ตนไปเล่น ทันทีที่ทีมงานของตนก้าวขึ้นไปบนเวทีเพื่อที่จะเช็คระบบเสียงก่อนการแสดง คนที่มีอำนาจในร้านก็ใช้คำสรรพนามเรียกพวกตนว่าไอ้ แล้วก็ อี ที่มากกว่านั้นเป็น เขาไม่ได้จัดเตรียมอุปกรณ์อะไรสำหรับการแสดงสดเลยแม้แต่ชิ้นเดียวตามสัญญา พอตนถาม กลับได้คำเหยียดหยามกลับมาว่า ทราบไหมว่าศิลปินซูเปอร์สตาร์ ร็อกสตาร์ที่วิ่งเพื่อการกุศล เขาก็เล่นได้ แล้วพวกคุณเป็นนักร้องไม่มีปัญญาที่จะเล่นเหรอ

ILLSLICK เดือดท้า

ตนเลยถามกลับไปว่า “ควายที่ไหนเปรียบเทียบนักดนตรีที่ยืนอยู่ตรงนี้กับนักวิ่ง กูแต่งเพลงเองเป็นร้อยเพลง เอ็มวีก็ทำด้วยเงินของกูเอง ไม่เคยไปกราบตีนให้ค่ายเพลงเป็นชีวิตกู อย่าเอาคนอย่างกูไปเปรียบเทียบกับคนแบบนั้น แล้วท่าน ถ้าท่านมั่นใจว่าซูเปอร์สตาร์ยอดนักวิ่งของท่านยอดเยี่ยมกว่าผม เรียกขึ้นมาประชันกับผมตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย แล้วใครที่ยอมเล่นในสถานการณ์แบบนั้น ถือว่าคุณทรยศต่ออาชีพของคุณเอง และคุณทรยศกับแฟนเพลงของคุณ เพราะคุณไม่เคยคิดถึงใครนอกจากเงิน และตัวของมึงเอง กูมาตรงนี้เพื่อร้องเพลงไปพร้อมๆ กับพวกมึง และมองเข้าไปในตาของพวกมึง มาเพื่อพวกมึง กูไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ร็อกอะไร กูไม่ใช่ยอดนักวิ่ง กูคือ อิลสลิก ของพวกมึงทุกคน และที่กูพูด ถ้าแน่ขึ้นมาตรงนี้ตัวตัวกับกู กู แชมป์ Battle Audio”

ส่วนทางด้านของหนุ่ม ตูน บอดี้แสลม เองก็ยังไม่ได้มีการออกมาเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ งานนี้เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป

อัปเดต “น้ำท่วมเชียงใหม่” ล่าสุด เช็กจุดน้ำท่วมขัง-ปิดการจราจร

อัปเดต “น้ำท่วมเชียงใหม่” ล่าสุดวันนี้!

เช็กจุดหลีกเลี่ยงเส้นทางอุทกภัย-ปิดการจราจร ด้าน ผู้ว่าฯเชียงใหม่ มั่นใจน้ำลดภายใน 3 วัน ขณะที่ระดับน้ำปิง สถานี P1 สะพานนวรัฐเริ่มทรงตัว

สถานการณ์ “น้ำท่วมเชียงใหม่” ความรุดหน้าปัจจุบันวันนี้(4 ตุลาคม 2565) เมื่อเวลา 07.00 น. เพจเฟซบุ๊ก “กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่” ได้รายงานจุดที่มีการปิดการจราจรชั่วคราวบริเวณที่น้ำท่วมสูงรถไม่สามารถผ่านได้ ดังต่อไปนี้

ทางลอดขัวสรีเวียงพิงค์
ทางลอดใต้สะพานป่าแดด
ถนนเจริญประเทศ
จุดกลับรถภาค5
สามแยกริมฟิงสโตร์ถึงสามแยกเมืองกาย
แยกสนามกอล์ฟยิมคานา
แยกระแกงถึงแยกแสงตะวัน
แยกสะพานนวรัฐตะวันออกถึงขัวเหล็ก
จากแยกหนองหอยถึงตลาดหนองหอย

เชียงใหม่

เป็นข้อมูลในการวางแผนการเดินทางในเดี๋ยวนี้ ถ้าเปิดการจราจรตามปกติเรียบร้อยจะประชาสัมพันธ์ให้รู้ต่อไป

ดังนี้เมื่อวานนี้(3 ตุลาคม 2565) เวลา 19.00 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณตลาดไนท์บาซาร์ ย่านเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยช่วงเย็นน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมพื้นที่ถนนประมาณ 30-40 เซนติเมตร ซึ่งเป็นสัญญานว่าน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เริ่มขยายวงกว้าง

นายนิรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ระดับน้ำปิงสูงกว่าจุดวิกฤติแทบ 1 เมตร ใกล้เคียงกับปี 54 ซึ่งถ้าไม่มีระบบป้องกันที่ดี ปริมาณน้ำที่ท่วมหลายจุดจะใกล้เคียงปี 54 แต่ปีนี้ระดับน้ำที่ท่วมในแต่ละชุมชนต่ำลงมากยิ่งกว่า เพราะเหตุว่าแผนปีนี้ เริ่มจากปิดท่อระบายน้ำทุกท่อเพื่อป้องกันน้ำผุด รวมทั้งได้เสริมแนวกระสอบทรายบนพนังกั้นน้ำ แต่ยอมรับว่าจะมีบางจุดที่พนังต่ำก็ทำให้น้ำล้นเข้าท่วมได้ แต่ยังอยู่ในพื้นที่โซนเสี่ยงที่ 1 และก็ 2 จากทั้งหมด 7 โซน ซึ่งก็ยังถือว่าท่วมน้อยกว่าปี 54
ทั้งหมดนี้มาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันคือป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งทุเลาความตกระกำลำบากให้ผู้ประสบภัย โดยการเคลื่อนย้าย ขนส่งผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูง รวมทั้งจัดอาหารส่งอีกทั้ง 3 มื้อ

ปัจจุบัน ระดับน้ำที่แม่แตง และก็เชียงดาว ที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำปิงก่อนจะไหลเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันฝนหยุดตกแล้วทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ต้นน้ำเริ่มทรงตัว ก็ทำให้วันนี้รวมทั้งวันที่(4 ตุลาคม 2565) ในตัวเมืองเชียงใหม่ ระดับน้ำเริ่มทรงตัวรวมทั้งจะค่อยๆลดลง ถ้าไม่มีฝนลงมาเพิ่มเติมอีกคาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 3 วัน

สำหรับวันนี้น้ำปิงได้ล้นหลายจุดในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยในพื้นที่ตำบลช้างคลาน รวมทั้งตำบลหนองหอย ย่านถนนเจริญประเทศ ซึ่งถือว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบ หลายร้อยครัวเรือน รวมทั้งประเด็นสำคัญอย่างพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่บริเวณถนนช้างคลาน รวมทั้งย่านไนท์บาซาร์ น้ำเริ่มขยายวงกว้าง ทำให้ มีโรงเรียน 3 แห่ง ย่านถนนเจริญประเทศ รวมทั้งปัจจุบันโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียน รวมทั้งโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ก็ได้ประกาศปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราวจวบจนกระทั่งสถานการณ์น้ำท่วมลดลง

ข้อมูลจาก สำนักชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ รายงานปริมาณน้ำในแม่น้ำปิง ช่วงเวลา 21.00 น. ที่สถานี P.67 แม่น้ำปิง ที่บ้านแม่แตง อ.สันทราย ระดับน้ำ 3.41 เมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 0.39 เมตร ปริมาณน้ำ 434.60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แนวโน้มปริมาณน้ำลดลง

ส่วนสถานี P.1 ที่สะพานนวรัฐ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ระดับน้ำ 4.63 เมตร สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.93 เมตร ปริมาณน้ำ 748.75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลง ส่วนปริมาณน้ำน้ำแม่แตงผ่านฝายแม่แตง 270.38 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลงเช่นกัน

ภาพ/ข่าวโดย วสันต์ ปัญญาเรือน, จักรินทร์ นมนาน จ.เชียงใหม่

Cr. กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่

“ดร.ธรณ์” เฉลยแล้ว ไทยรอดพ้นจากพายุโนรู เพราะมีเทือกเขา “อันนัม” เหมือนเป็นเกราะคุ้มครอง

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม

บอกสาเหตุที่ “พายุโนรู” สลายตัวเร็ว ทำให้ประเทศไทยไม่เดือดร้อนมากกว่านี้ เพราะมีเทือกเขา “อันนัม” เป็นเสมือนเกราะคุ้มครอง เผยคนไทยโชคดีที่เราตั้งถิ่นฐานอยู่เบื้องหลังอันนัม

เมื่อวันที่ 29 เดือนกันยายน เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” หรือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อมและอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เผยสาเหตุที่ “พายุโนรู” สลายตัวเร็ว ทำให้เมืองไทยไม่เดือดร้อนมากกว่านี้ โดยระบุไว้ว่า “พายุหมุนเกิดในทะเล ตายในเทือกเขา นี่เป็นประโยคสั้นๆแต่ผมมีความรู้สึกว่าอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไทยดีสุด “โนรู” ที่รุนแรงตอนขึ้นฝั่ง อ่อนกำลังลงอย่างเร็วทันใจ ทำให้เมืองไทยไม่เดือดร้อนมากไปกว่านี้ แล้วโนรูตายที่ไหน? คำตอบเป็นพายุหมดแรงบน “อันนัม” เทือกเขาที่เป็นเหมือนเกราะคุ้มครองไทย

อันนัมไม่ได้อยู่ในเมืองไทยด้วย เทือกเขาอยู่ในเวียดนาม

ในลาว แล้วก็มีส่วนปลายอยู่ในเขมรแต่เทือกเขายาว 1,100 กิโลเมตร สูงถึง 2,800 เมตร เป็นปราการธรรมชาติที่ปกป้องรักษาเมืองไทยมาบ่อยครั้ง อันนัมทอดยาวขนานชายฝั่งเวียดนาม แบ่งเขตชายฝั่งออกจากลุ่มน้ำแม่โขงที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินทุกครั้งที่มีไต้ฝุ่นหรือพายุใหญ่เข้ามาทางเวียดนาม อันนัมหยุดแรงลมไว้ ทำให้พายุที่เกรี้ยวกราดลดความแรงลมเหลือเพียงดีเปรสชั่น หากแม้ฝนจะตกอยู่ แต่แรงลมเบาลงมาก ความชื้นในอากาศส่วนหนึ่งถูกกักเก็บไว้

อันนัมยังเป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ ป่าดิบชื้นเรื่อยจนกระทั่งป่าดิบเขาที่สำคัญในอินโดจีน เป็นถิ่นที่อยู่ของ “เสาลา” แอนทีโลปหายากที่สุดประเภทหนึ่งของโลก พบเฉพาะแถวอันนัมตอนเหนือ ในลาวแล้วก็เวียดนาม

อันนัมยังป้อนน้ำให้ลำโขง ทำให้ผู้คนในลาวแล้วก็เขมรมีความสุขแล้วก็นั่นเป็นเรื่องที่อยากเล่าให้เพื่อนธรณ์ฟัง ถึงปราการแห่งอินโดจีนเทือกเขาที่มีความหมายมากมายต่อไทยแล้วก็จะยิ่งทวีความสำคัญ เมื่อโลกร้อนขึ้น เมื่อสภาพอากาศสุดขั้วแรงขึ้นอันนัมยังคงตั้งตระหง่าน แล้วก็คนไทยโชคดีเหลือเกินที่พวกเราตั้งภูมิลำเนาอยู่เบื้องหลังอันนัม”

สภาพอากาศวันนี้ เตรียมรับมือพายุโนรู หลายจังหวัดโดนเต็มๆ

กรมอุตุฯ เตือนพายุโนรูเข้าไทยวันพรุ่งนี้ ทั่วทุกภาคเจอฝนตกหนัก ระวังน้ำหลากเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 12 เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (28 ก.ย. 65) พายุไต้ฝุ่น “โนรู” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนามแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 70 กิโลเมตรทางทิศตะวันออกของแขวงเซกอง ประเทศลาว หรือที่ละติจูด 15.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.1 องศาทิศตะวันออก โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สภาพอากาศวันนี้

สภาพอากาศวันนี้ เตรียมรับมือพายุโนรู หลายจังหวัดโดนเต็มๆ

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนแรงลงเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย บริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 29 ก.ย. 65
โดยพายุนี้จะอ่อนแรงลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเป็นลำดับ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมสมุทรอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำหลากฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณริมตลิ่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้

วันที่ 28 กันยายน 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 29 กันยายน 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 30 กันยายน 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ชัยภูมิ และนครราชสีมา

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต

สำหรับคลื่นลมบริเวณสมุทรอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยสมุทรอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างสมุทรมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวประมงเดินเรือด้วยความระแวดระวัง เรือเล็กบริเวณสมุทรอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรจะงดออกจากฝั่งจนกระทั่งวันที่ 1 เดือนตุลาคม 65